วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

เปิดตัวกันไปเรียบร้อยแล้วนะค้า สำหรับ วินโดวส์ 8 (Windows 8) ระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพาของไมโครซอฟท์ ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การเปิดตัว Windows 95 ซึ่งทำให้คอไอทีทั่วโลกรู้จักปุ่มสตาร์ท (Start) และแถบแสดงงานที่ทำหรือทาสก์บาร์ เลยทีเดียว


สำหรับครั้งนี้ ไมโครซอฟท์ชูความสามารถใหม่ 4 จุดทั้งความสามารถในการทำงานบนทุกอุปกรณ์ (แท็บเล็ต แล็ปท้อป และเดสก์ท้อป), รูปแบบการควบคุมแบบใหม่ "เมโทรแอนด์ทัช (Metro & Touch)", ความเร็วทั้งการเปิดเครื่องและการทำงาน และการเพิ่มร้าน Windows App Store เพื่อผู้ใช้ที่ต้องการซื้อแอปพลิเคชัน ล่าสุดเปิดให้นักพัฒนาดาวน์โหลดไปทดสอบบริการแล้ว ก่อนจะเริ่มจำหน่ายได้ในปีหน้า
       
ตามข่าวเค้าบอกว่า ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 นี้ ได้ถูกนำมาแสดงศักยภาพต่อหน้ากลุ่มนักพัฒนามากกว่า 5,000 คนภายในงานประชุม Build 2011 ที่ไมโครซอฟท์จัดขึ้นในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมานี่เองฮ่ะ โดยสตีเวน ไซนอฟสกี (Steven Sinofsky) ประธานฝ่ายธุรกิจวินโดวส์จากไมโครซอฟท์ เชื่อว่าวินโดวส์เวอร์ชันใหม่ล่าสุดนี้จะทำให้ผู้ใช้จัดการแอปพลิเคชันและเอกสารที่มีอยู่ในทุกอุปกรณ์ได้ดีกว่าเดิม เพราะสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่ติดชิปประมวลผลสถาปัตยกรรม ARM (ชิปประหยัดพลังงานสำหรับอุปกรณ์พกพา) และ x86 (ชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับคอมพิวเตอร์พีซีจากค่ายอินเทล) โดยรองรับทั้งโน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 10 นิ้ว ถึงคอมพิวเตอร์พีซีครบวงจรหน้าจอขนาด 27 นิ้วความละเอียดสูง
     
       "ไม่มีข้อจำกัดระหว่างอุปกรณ์พกพาและคอมพิวเตอร์อีกต่อไป เพราะระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 สามารถใช้งานได้ในทุกๆ ดีไวส์ แม้แต่เน็ตบุ๊กที่ใช้ซีพียู Atom รุ่นแรก กับ RAM 1 GB ก็สามารถใช้งานได้" (เทพพพ..)     
     
อย่างไรก็ตามขณะนี้ Windows 8 Developer Preview วินโดวส์ 8 เวอร์ชันทดสอบนั้นเปิดให้นักพัฒนาทั่วโลกเริ่มทดลองดาวน์โหลดไปใช้งานบนเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 กันยายนที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐฯ ฮ่ะ ประกอบด้วยโปรแกรมเวอร์ชันขนาดตั้งแต่ 2.8GB (32 บิต) ถึง 4.8GB (64 บิต) ทั้งหมดนี้เปิดให้ดาวน์โหลดโดยไม่มีเงื่อนไขหลังจากที่ไมโครซอฟท์เปิดให้นักพัฒนาทดสอบวินโดวส์ 7 เมื่อเดือนตุลาคม 2008

การรองรับทุกอุปกรณ์ทั้งคอมพ์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊กพกพา และแท็บเล็ตพกพาสะดวก คือจุดขายเบอร์ 1 ของวินโดวส์ 8 ฮ่ะเพราะที่ผ่านมา ระบบปฏิบัติการวินโดวส์นั้นถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานบนคอมพิวเตอร์วางตักและตั้งโต๊ะเท่านั้น แต่ วินโดวส์ 8 สามารถใช่งานได้ดีบนแท็บเล็ต ด้วย ทั้งหมดนี้สะท้อนชัดเจนในจุดขายสำคัญอันดับ 2 นั่นคือหน้าตาโปรแกรมที่ไมโครซอฟท์ตั้งชื่อว่าเมโทรแอนด์ทัช ซึ่งมีลักษณะเป็นช่องสี่เหลี่ยมตารางงานเช่นเดียวกับวินโดวส์โฟน โดยแทนที่จะเป็นเมนู Start ตามปกติ ผู้ใช้จะได้พบหน้าจอ Start screen ที่ผู้ใช้แท็บเล็ตสามารถเลื่อนดูหรือ scroll อย่างรวดเร็วตามแนวขวาง ขณะที่ผู้ใช้พีซีสามารถใช้เมนู Start ได้ตามปกติ
   
จุดขายอันดับ 3 คือความเร็ว ไมโครซอฟท์การันตีว่าวินโดวส์ 8 ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเปิดเครื่องพร้อมใช้งานในเวลาน้อยกว่า 8 วินาที แถมยังรองรับการโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูงผ่านพอร์ต USB 3.0 ซึ่งคาดว่าจะมีบทบาทมากในอนาคต เช่นเดียวกับเทคโนโลยี Hyper-V เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์เก็บความจำภายนอกที่ว่องไวกว่าวินโดวส์เวอร์ชัน 7 ปัจจุบันอย่างชัดเจน
     
จุดขายที่ 4 คือการมาพร้อมร้าน Windows App Store เพื่อให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์พีซีมีโอกาสซื้อแอปพลิเคชันเช่นเดียวกับชาวสมาร์ทโฟน จุดนี้ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของร้าน iOS App Store ของแอปเปิลซึ่งสามารถสร้างระบบนิเวศน์ทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ชนิดที่ไมโครซอฟท์ต้องยอมรับ ผลคือวินโดวส์ 8 จะทำให้นักพัฒนาอิสระรายย่อยมีช่องทางในการสร้างรายได้มากขึ้นจากการสร้างและจำหน่ายแอป คาดว่าในอนาคตตลาดแอปพลิเคชันสำหรับวินโดวส์จะทวีความร้อนแรงต่อเนื่อง
 
นอกจากนี้ มีการยืนยันแล้วว่า ไมโครซอฟท์จะพ่วงโปรแกรม Security Essentials ลงในวินโดวส์ 8 เพื่อให้เป็นมาตรฐานการปกป้องผู้บริโภคจากไวรัสคอมพิวเตอร์ โดยจะเปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันที่ผู้บริโภคต้องดาวน์โหลดโปรแกรม Security Essentials เองต่างหาก มาเป็นการพ่วงไปกับแพคเกจ Windows Defender ซึ่งจะถูกผนึกในวินโดวส์ จุดนี้ถูกวิเคราะห์ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้วินโดวส์ทั่วโลก แต่อาจไม่ใช่ข่าวดีของผู้ให้บริการซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่อาจมีรายได้น้อยลง
     
โดยภาพรวม นักวิเคราะห์เชื่อว่าผลกระทบหลักที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดตัววินโดวส์ 8 คือการแข่งขันที่ดุเดือดกว่าเดิมในตลาดแท็บเล็ตโลก เบื้องต้นนักวิเคราะห์ประเมินว่าอุปกรณ์วินโดวส์ 8 จะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของแท็บเล็ตในตลาดอย่างไอแพดและแท็บเล็ตแอนดรอยด์ ขณะที่ความยืดหยุ่นในการสนับสนุนโปรแกรมและแอปพลิเคชันของวินโดวส์ 8 ยังเป็นจุดแข็งสำคัญที่อาจพลิกตลาดอุปกรณ์พกพาโลกได้ในอนาคต (โปรแกรมสำหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 สามารถนำมาใช้งานบนวินโดวส์ 8 ได้) โดยเฉพาะในตลาดผู้ใช้วินโดวส์ซึ่งมีเกิน 80% ของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วโลก งานนี้ยูสเซอร์อย่างเรา ๆ ก็ได้ประโยชน์จากการแข่งขันของบรรดาช้างชนช้างกันไปอย่างถ้วนหน้าฮ่ะ ส่วนใครที่อยากเห็นสิงห์ชนสิงห์ ก็คงต้องแวะเซเว่นใกล้บ้านแล้วก็ชวนเพืิ่อนมาชนกันเอาเองนะค้า ครึ ครึ....

แล้วพบกับไอที ยูที ได้ใหม่ในตอนหน้าค่า...




ขอบคุณที่มา manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9540000117311
ภาพประกอบจาก thaiware.com/upload_misc/tips/2012_10/images/39_121030210117TQ.jpg 




วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

แอร๊ย..สาวกเกาหลัง เอ๊ย..เกาหลีถึงกับต้องอึ้ง ทึ่ง ตะลึงงันกันอีกแล้วจ้า

ไม่รู้งานนี้กระเป๋ากางเกงจะระเบิดกันหรือเปล่า เพราะซัมซุง จัดให้ กับ น้องบานหน้าใหม่ในตระกูลกาแล็กซี่  นั่นก็คือ “Samsung Galaxy Note” ที่พกพาหน้าจอมาถึง 5.3 นิ้ว ให้ทั้งลาก ทั้งจิ้ม กันมันส์ทีเดียว!!


งานนี้ นอกจากจะพกจอที่สุดในตระกูล Galaxy แล้ว  Samsung Galaxy Note ยังถือว่าใหญ่สุดในแอนดรอยด์อีกด้วย โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน IFA 2011 ที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ณ กรุงเบอร์ลิน

นอกจากจุดเด่นหน้าจอใหญ่เทพแล้ว Samsung Galaxy Note ยังพาซีพียู 1.4GHz dual Core  พร้อมแอนดอรยด์ 2.3 ที่จะทำให้การรันแอพฯ ลื่นไหลมาด้วย  พร้อมกับรองรับเทคโนโลยี  LTE และ HSPA+ (4G) ที่จะนำพาคุณก้าวข้ามขีดจำกัดในการดาวน์โหลดอัพโหลด  แถมมี Stylus อย่าง S Pen ที่จะมาเพิ่มฟีเจอร์ที่น่าใช้งานมากยิ่งขึ้นอีกต่างหาก

อิชั้นก็ได้แต่เฝ้ารอฮ่ะ ว่าเมื่อไหร่จะมาถึงเมืองไทย มาไว ๆ ละกันนะน้องบานนน..น๊าาา.. 




ขอบคุณที่มา  mthai.com
ภาพประกอบจาก techdeville.com/wp-content/uploads/samsung-galaxy-note_1.jpg 
Subscribe to RSS Feed Follow me on Twitter!